กลุ่มอาการปวดส้นเท้าอย่างรุนแรงในตอนเช้า โดยเฉพาะหลังจากเมื่อลุกเดินก้าวแรกๆ ในแต่ละวัน บางรายอาจจะเจ็บมาก จนไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้ และอาจมีอาการปวดต่อเนื่องได้หลายนาที หากท่านใดที่มีอาการตรงตามที่กล่าวมาข้างต้น แสดงว่าท่านเป็นโรค “พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ” หรือเรียกอีกชื่อที่รู้จักกันทั่วไป คือ “โรครองช้ำ”
สาเหตุของการเกิดโรค : ลักษณะโดยปกติทั่วไปของเท้า จะมีพังผืดที่บริเวณส้นเท้า โดยพังผืดนี้จะยึดตั้งแต่บริเวณส้นเท้าและแผ่กระจายตัวเพื่อยึดกับกระดูกฝ่าเท้าด้านหน้าของทุกนิ้ว ซึ่งพังผืดมีหน้าที่สำคัญในการรับแรงกระแทกในขณะที่กำลังใช้งานเท้าอยู่ พังผืดที่เท้ายังเป็นโครงสร้างที่สำคัญทำให้เกิดส่วนโค้งของอุ้งเท้าอีกด้วย โดยจุดเกาะของพังผืดจะเริ่มต้นจากส้นเท้าและแผ่ขยายไปยังด้านหน้าของทุกนิ้ว ทำหน้าที่ในการรับแรงกระแทกเวลาเดินลงน้ำหนัก …..
จริงๆ แล้ว ยาสเตียรอยด์ เป็นยาที่มีคุณและประโยชน์มากมาย แค่ควรใช้ยาตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่เหมาะสมเท่านั้น ในผู้ป่วยบางรายและบางโรคก็มีความจำเป็นต้องทานยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จึงขอแนะนำให้ทำการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบันในด้าน โรคกระดูกและข้อ มีการนำยาสเตียรอยด์มาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยหวังผลให้คนไข้ หายปวดได้ดีและเร็วขึ้น เพื่อให้คนไข้สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ และทำให้ผู้ป่วย นิยมกลับมาใช้ยา กลุ่มนี้ซ้ำด้วยตัวเอง เมื่อมีอาการปวด ตามกล้ามเนื้อ , กระดูกและข้อ โดยที่คนไข้คาดไม่ถึงว่าการใช้ยาสเตียรอยด์ เช่นนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผลเสียที่รุนแรงต่อร่างกายจากการรับสารสเตียรอยด์กึ่งสังเคราะห์โดยไม่จำเป็น
โรคเก๊าท์ เป็นหนึ่งในโรคข้อที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ชาย อายุ 30 ปีขึ้นไป และในผู้หญิง โดยเฉพาะในวัยหมดประจำเดือน สาเหตุของโรคเก๊าท์ เกิดจากการมีปริมาณกรดยูริคในเลือดเข้มข้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน เกิดเป็นผลึกสะสมในข้อ หรือเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อ กระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบปวดบวมข้ออย่างรุนแรง ในผู้ป่วยบางรายอาจพบมีอาการไข้ร่วมด้วย อาการอักเสบจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมง เกิดได้กับทุกข้อ โดยส่วนมาก มักตรวจพบที่ โคนกระดูกนิ้วโป้งเท้า ข้อเท้า ข้อเข่า และข้อศอก
โรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อม ทับเส้นประสาท เป็นหนึ่งโรคที่ตรวจพบเป็นประจำ โดยในอดีต จะตรวจพบเจอโรคนี้ ในกลุ่มคน อายุ 40-50 ปีขึ้นไป จากสาเหตุหลักๆ คือ ความเสื่อมตามอายุ แต่ในสังคมปัจจุบัน รูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป มีการใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ มากขึ้น พฤติกรรมก้มๆเงยๆ คอ มากกว่าปกติ ทำให้ หมอนรองกระดูกคอ ทำงานหนัก เร่งให้เกิดความเสื่อมเร็วขึ้น จึงเป็นเหตุทำให้ ในปัจจุบัน พบโรค โรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อม ทับเส้นประสาท ในวัย คนหนุ่มสาว มากขึ้น !!!
กลุ่มอาการ “ปวดหลัง” เป็นปัญหาทางสุขภาพที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน จากสถิติมนุษย์ร้อยละ 80 เคยมีอาการปวดหลัง ปวดเอว หรืออาจปวดร้าวลงขา ภาวะเหล่านี้สามารถพบได้ทุกกลุ่มอายุ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยทำงาน หรือวัยสูงอายุ ซึ่งสาเหตุของการปวดหลังจะแตกต่างกันไปแต่ละวัย และบางสาเหตุอาจก่อให้เกิดการทำลายเส้นประสาทสันหลัง อันอาจนำไปสู่ความพิการ หรือทุพพลภาพในอนาคตได้ สาเหตุของอาการปวดหลัง มีอะไรบ้าง ? ลักษณะอาการปวดหลังที่สำคัญ และควรไปพบแพทย์
สัญญาณอาการ 5 อย่าง ที่อยากให้หมั่นสังเกตและไม่ประมาทต่ออาการเจ็บป่วยมีดังนี้ 1.อาการปวดเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน 2.ปวดกระดูกและข้อต่อร่วมกับมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือมีไข้ต่ำๆ 3.อาการปวดกระดูกและข้อที่เป็นมาแล้วระยะหนึ่ง แต่มีอาการปวดถี่ขึ้น รุนแรงมากขึ้น 4.ปวดกระดูกสันหลังหรือกระดูกต้นคอ ร่วมกับมีอาการปวดร้าว ชา 5. มีประวัติบุคคลในครอบครัว ป่วยเป็นโรคกลุ่มร้ายแรงมาก่อน อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาการบางอย่าง หากปล่อยไว้นาน การรักษาก็ต้องใช้ระยะเวลานานมากขึ้น
กลุ่มประชากรผู้สูงอายุของทั้งโลก มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี สำหรับในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2565 คาดการณ์ว่ามีประชากรสูงอายุ ประมาณ 12 ล้านคน และน่าจะมีผู้ป่วยที่เป็น โรคกระดูกพรุน อยู่ประมาณ 3-4 ล้านคน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่า ผู้ป่วยมากกว่า ร้อยละ 50 ไม่ทราบว่าเป็นโรคนี้ ??!! และไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม นพ.สุนทร ศรีสุวรรณ์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ (กระดูกและข้อ) โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ กล่าวว่าโรคนี้เปรียบเหมือน ภัยเงียบ คือ “ เป็นโรค แต่ไม่รู้ตัว “
สาร CFA เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาปวดเข่า และข้อต่อ ซึ่งเหมาะสำหรับนักกีฬา ผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาออฟฟิศซินโดรม สารที่เรียกว่า CFA หรือ Cetylated Fatty Acid สารสกัดกรดไขมันจากพืชในธรรมชาติ ทำปฏิกิริยากับ Cetyl Alcohol เกิดเป็นสารสกัดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ระบบข้อต่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ ได้ลึกยิ่งขึ้น จะถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบข้อต่อและเส้นเอ็น เข้าไปเสริมเยื่อบุผิวในบริเวณนั้นๆ ให้แข็งแรง จากการบาดเจ็บหรือมีการเสื่อมสภาพจากการใช้งานเป็นเวลานาน